อธิษฐานกันต่อไป

สวัสดีครับทุกคน ส่งท้ายเดือนสิงหาคมนี้ แอดมินยังอยู่ในหัวข้อ “การอธิษฐาน” ครับ ก่อนอื่นเลยแอดมินเริ่มต้นโพสนี้ด้วยพระคำของพระเจ้า จากพระคัมภีร์ สุภาษิต 8:17 ครับ

(Proverbs 8:17) I love them that love me; and those that seek me early shall find me.

(สุภาษิต 8:17) เรารักบรรดาผู้ที่รักเรา และบรรดาผู้ที่แสวงเราอย่างขยันขันแข็งก็พบเรา

ดังนั้นเวลาเริ่มต้นวันใหม่ในทุกๆเช้า แอดมินหนุนใจทุกคน ให้เริ่มต้นด้วยการอธิษฐานกับพระเจ้าเป็นอย่างแรกครับ

วันนี้เรามาศึกษาข้อพระคัมภีร์กันต่อว่าเราควรอธิษฐานในลักษณะใดบ้าง

ลักษณะหรือรูปแบบของการอธิษฐานตามข้อพระคัมภีร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกันครับ ซึ่งในแต่ละประเภทนั้นเราก็ควรนำมาปฏิบัติผ่านการดำเนินชีวิตในฐานะผู้ที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ครับ

1. การอธิษฐานส่วนตัว

เรามาอ่านข้อพระคัมภีร์ มัทธิว 6:6 กันครับ

(Matthew 6:6) But thou, when thou prayest, enter into thy closet, and when thou hast shut thy door, pray to thy Father which is in secret; and thy Father which seeth in secret shall reward thee openly.

(มัทธิว 6:6) ฝ่ายท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะทรงโปรดประทานบำเหน็จแก่ท่านอย่างเปิดเผย

พระเยซูคริสต์กล่าวถึงสถานที่ในการอธิษฐานประเภทนี้ว่าเป็น ห้องชั้นใน ซึ่งก็หมายถึง สถานที่ที่เราสามารถอธิษฐานต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าได้เป็นการส่วนตัว โดยปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆครับ สำหรับแอดมิน ห้องนอนเป็นสถานที่ที่แอดมินใช้อธิษฐานเป็นการส่วนตัวเสมอครับ

นอกจากนี้พระเยซูรับปากว่าพระเจ้าจะทรงฟังและตอบคำอธิษฐานในที่ลี้ลับของเรา

2. การอธิษฐานในที่สาธารณะ

การอธิษฐานในลักษณะนี้มักกระทำกันในที่ประชุมของคริสตจักร รวมถึงการชุมนุมของผู้เชื่อทั้งหลาย เรามาดูตัวอย่างในข้อพระคัมภีร์ กิจการ 12:12 กันครับ

(Acts 12:12) And when he had considered the thing, he came to the house of Mary the mother of John, whose surname was Mark; where many were gathered together praying.

(กิจการ 12:12) เมื่อเปโตรคิดอย่างนั้นแล้ว ก็มาถึงบ้านของมารีย์มารดาของยอห์นผู้มีชื่ออีกว่า มาระโก ที่นั่นมีหลายคนได้ประชุมอธิษฐานกันอยู่

นอกจากนี้ในที่ประชุมดังกล่าว การอธิษฐานในที่สาธารณะจะถูกออกเสียงโดยทีละคนครับ

(1 Corinthians 14:23)  If therefore the whole church be come together into one place, and all speak with tongues, and there come in those that are unlearned, or unbelievers, will they not say that ye are mad?
(1 Corinthians 14:40 ) Let all things be done decently and in order.

(1 โครินธ์ 14:23) เหตุฉะนั้นถ้าทั้งคริสตจักรมีการประชุมพร้อมกัน แล้วคนทั้งปวงต่างก็พูดภาษาต่างๆ และมีคนที่รู้ไม่ถึงหรือคนที่ไม่เชื่อเข้ามา เขาจะมิเห็นไปว่าท่านทั้งหลายคลั่งไปแล้วหรือ
(1 โครินธ์ 14:40) แต่สิ่งสารพัดซึ่งจะกระทำนั้น จงกระทำตามสมควร และให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

เมื่อคนใดคนหนึ่งนำที่ประชุมอธิษฐาน ทุกคนก็มีส่วนร่วมในการอธิษฐานนั้น โดยกล่าวว่า เอเมน (“ขอให้เป็นดังนั้น”) ตอนจบคำอธิษฐานครับ

(1 Corinthians 14:16) Else when thou shalt bless with the spirit, how shall he that occupieth the room of the unlearned say Amen at thy giving of thanks, seeing he understandeth not what thou sayest?

(1 โครินธ์ 14:16)  มิฉะนั้นเมื่อท่านขอบพระคุณด้วยจิตวิญญาณแล้ว คนที่อยู่ในพวกที่รู้ไม่ถึงจะว่า “เอเมน” เมื่อท่านขอบพระคุณอย่างไรได้ ในเมื่อเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด

3. การอธิษฐานเป็นคู่

เรามาศึกษาข้อพระคัมภีร์ มัทธิว 18:19-20 กันครับ

(Matthew 18:19) Again I say unto you, That if two of you shall agree on earth as touching any thing that they shall ask, it shall be done for them of my Father which is in heaven.
(Matthew 18:20) For where two or three are gathered together in my name, there am I in the midst of them.

(มัทธิว 18:19) เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า ถ้าในพวกท่านที่อยู่ในโลกสองคนจะร่วมใจกันขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะทรงกระทำให้
(มัทธิว 18:20) ด้วยว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนๆในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น”

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ในบริบทโดยรวม (มัทธิว 18:15-18) มาก่อนหน้า เราจะพบว่าพระเจ้าสอนผู้เชื่อให้รู้จักคลี่คลายความบาดหมาง และขุ่นเคืองใจกับผู้เชื่อคนอื่นๆกันก่อน เพราะหากเขาคนนั้นไม่ยอมยกโทษ ไม่ยอมความกับพี่น้องในพระคริสต์ที่เขามีข้อพิพาทด้วย พระเจ้าเองก็ไม่อาจรับฟังคำอธิษฐานนั้นได้

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผู้เชื่อที่มีปัญหาระหว่างกัน สามารถคลี่คลายความขัดแย้ง และกลับมามีความสามัคคีที่ดีต่อกันและกันเกี่ยวกับสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาจะทูลขอ พระเจ้าก็จะทรงกระทำสิ่งนั้นให้

ข้อพระคัมภีร์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีในการอธิษฐานเป็นคู่ระหว่างกัน ในบริบทที่ใหญ่ไปกว่านั้น พระเจ้ากล่าวถึงความสามัคคีกันระหว่างเหล่าผู้เชื่อในพระคริสต์ โดยสิ่งนี้เองที่ทำให้พระเจ้าฟังเมื่อเราอธิษฐานครับ

ครั้งต่อไป เราจะมาดูกันว่า พระเจ้าตอบรับคำอธิษฐานของเราหรือไม่ อย่างไร กันครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน

อ้างอิง:
The ABC’s of Christians Growth, Robert J. Sargent
ทำความเข้าใจพระคัมภีร์, ดร. เดวิด เอช. โซเร็นสัน

Share

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *