การตีความพระคัมภีร์
หลายคนเวลาเริ่มอ่านพระคัมภีร์ ตอนแรกๆอาจมีข้อสงสัย ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เพราะในพระคัมภีร์มีเรื่องราวของทั้งวัฒนธรรมชาวยิว ช่วงเวลาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่างๆ บางคนท้อใจ อ่านแล้วงง อ่านแล้วสับสน แอดมินขอหนุนใจพวกเราทุกคนที่เป็นคริสเตียนและได้รับความรอดแล้วผ่านทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ ว่าเราสามารถเข้าใจพระคัมภีร์ได้ครับ
วันนี้เราจะมาดูหลักการอ่านและตีความพระคัมภีร์ขั้นพื้นฐานกันครับ
แอดมินได้รับการสอนจากมิชชันนารีแบ๊บติสต์ชาวอเมริกัน สมัยตอนเป็นคริสเตียนใหม่ๆ ครับ การตีความพระคัมภีร์ หมายถึง การที่เราสามารถนำเอาความหมายที่อยู่ในข้อพระคัมภีร์แต่ละบท แต่ละตอน ออกมาได้ครับ ท่านมิชชันนารีสอนให้แอดมินตีความข้อพระคัมภีร์ด้วยข้อพระคัมภีร์ (Scripture interprets Scripture) คือการรู้จักสังเกตและเปรียบเทียบข้อพระคัมภีร์ต่างๆกับหัวข้อหลักคำสอนคริสเตียนครับ
เราไม่สามารถใช้ความคิดเห็นส่วนตัวในการตีความพระคัมภีร์ เพราะอาจเกิดอคติได้ครับ และที่สำคัญ หลักคำสอนในพระคัมภีร์จะไม่มีวันขัดแย้งกันเอง เพราะพระคัมภีร์ที่คริสเตียนมี นั้นได้รับ “การดลใจ” มาจากพระเจ้าครับ ทุกคนสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่โพส “พระคัมภีร์ที่รักษาไว้” ครับ
(2 Timothy 3:16) All scripture is given by inspiration of God, and is profitable for doctrine, for reproof, for correction, for instruction in righteousness:
(2 ทิโมธี 3:16) พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การปรับปรุงแก้ไขคนให้ดี การอบรมในเรื่องความชอบธรรม
เรายึดหลักการตีความโดยตรงตัว (Literal Interpretation) ตลอดทั้งพระคัมภีร์ครับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ความไม่สอดคล้องกัน นอกจากนี้การตีความข้อพระคัมภีร์ก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าใครเป็นคนตีความ นี่คือผลที่ตามมาหากเราไม่ใช้หลักการตีความโดยตรงตัว อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่าพระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่มมีสไตล์และรูปแบบการเขียนที่ใช้ภาษาภาพพจน์แตกต่างกันออกไป เช่น การพรรณนาความ การใช้ภาษาเชิงเปรียบเทียบ ครับ
หลักการตีความโดยตรงตัว มีใจความสำคัญๆ คือ
- ตีความโดยอาศัยไวยากรณ์: การพิจารณาไวยากรณ์ของข้อพระคำนั้นๆ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการตีความข้อพระคัมภีร์ เช่น พระคำข้อนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต หรือ กำลังกล่าวถึงสิ่งใดที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนี้ หรือ กำลังกล่าวถึงสิ่งใดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ครับ
 - ตีความโดยอาศัยบริบท: เราสามารถเข้าใจข้อพระคัมภีร์โดยอ่านคําและประโยคต่างๆที่อยู่ในพระคำข้อนั้นๆ นอกจากนี้ข้อความแวดล้อมจะช่วยให้เราเข้าใจความหมายของพระคัมภีร์ได้ครับ
 
ยกตัวอย่างเช่น
(Psalms 42:1) As the hart panteth after the water brooks, so panteth my soul after thee, O God.
(เพลงสดุดี 42:1) กวางกระเสือกกระสนหาลำธารที่มีน้ำไหลฉันใด โอ ข้าแต่พระเจ้า จิตวิญญาณของข้าพระองค์ก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น
ผู้เขียนพระคัมภีร์บทนี้ใช้การเปรียบเทียบให้เห็นถึงภาพของกวางที่กระเสือกกระสนไปหาธารน้ำเพื่อดับกระหาย เมื่อมันมาเจอกับแม่น้ำที่ไหลเย็นและได้ดื่มกิน มันก็รู้สึกสดชื่น ตอนที่กวางตัวนี้ยังหาลำธารไม่เจอ ยังไม่ได้กินน้ำ มันก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จนกระทั่งได้มาพบกับแม่น้ำนี้เข้า พระคัมภีร์ข้อนี้ใช้ภาษาเชิงเปรียบเทียบชัดเจนเลยทีเดียวครับ ชีวิตเราเองก็เหมือนกับกวางตัวนี้ เราไม่สามารถหาความพึงพอใจใดๆในชีวิตนี้ได้จากสิ่งอื่น นอกเหนือจากทางพระเยซูคริสต์ (ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้า) เท่านั้นครับ
อีกตัวอย่างนะครับ
(Isaiah 55:12) For ye shall go out with joy, and be led forth with peace: the mountains and the hills shall break forth before you into singing, and all the trees of the field shall clap their hands.
(อิสยาห์ 55:12) เพราะเจ้าจะออกไปด้วยความชื่นบาน และถูกนำไปด้วยสันติภาพ ภูเขาและเนินเขาจะเปล่งเสียงร้องเพลงข้างหน้าเจ้า และต้นไม้ทั้งสิ้นในท้องทุ่งจะตบมือของมัน
แอดมินให้ทุกคนดูพระคำข้อนี้ที่ว่า …และต้นไม้ทั้งสิ้นในท้องทุ่งจะตบมือของมัน…
มีใครเคยเห็นต้นไม้ที่ตบมือได้ไหมครับ?
แอดมินเองยังไม่เคยเห็นเลย เมื่อตอนแอดมินอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อาจารย์วิชาภาษาไทย อธิบายว่า การใช้ภาษาลักษณะนี้ เรียกกันว่า “บุคลาธิษฐาน” ซึ่งหมายถึง การใช้ภาษาเพื่ออธิบายลักษณะสมมุติให้กับสิ่งที่ไม่ใช่คน ให้มีท่าทาง ความรู้สึกนึกคิดเหมือนคนครับ
การใช้ภาษาภาพพจน์นี้ทำให้เราเห็นได้ว่าพระเจ้าสมควรได้รับการยกย่อง และเชิดชูอย่างสูงสุด แม้แต่ต้นไม้เองก็ยังอยากแสดงออกด้วยการตบมือเพื่อชมเชยพระเจ้า รวมไปถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ที่อยากร่วมสรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระคำข้อนี้ยังช่วยสอน เตือนใจให้คริสเตียนทุกคนรู้จักยกย่อง เชิดชู และสรรเสริญพระเจ้าครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน
อ้างอิง:
Effective Bible Study: Discerning and Applying God’s Truth, Regular Baptist Press
ทำความเข้าใจพระคัมภีร์, ดร. เดวิด เอช. โซเร็นสัน
	
																								
																								
																								
																								
																								
																								



 Users Today : 0
 Users Last 30 days : 233
 Total Users : 9280