ควบคุมตนเอง

สวัสดีครับทุกคน เดือนนี้เรายังคงอยู่กับหัวข้อ “คุณลักษณะคริสเตียน” ครับ เราจะพูดคุยในเรื่องของการควบคุมตนเอง พระคัมภีร์หลายข้อได้สอนเราในเรื่องนี้ การเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณเราจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองผ่านการช่วยเหลือของพระเจ้า ผ่านการเรียนรู้และศึกษาข้อพระคัมภีร์ นอกจากนี้เราก็ต้องรู้จักควบคุมตนเองด้วยเช่นกัน เรามาดูกันครับว่าพระเจ้าได้บอกเราในเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไรครับ

(1 Corinthians 9:24) Know ye not that they which run in a race run all, but one receiveth the prize? So run, that ye may obtain.
(1 Corinthians 9:25) And every man that striveth for the mastery is temperate in all things. Now they do it to obtain a corruptible crown; but we an incorruptible.
(1 Corinthians 9:26) I therefore so run, not as uncertainly; so fight I, not as one that beateth the air:
(1 Corinthians 9:27) But I keep under my body, and bring it into subjection: lest that by any means, when I have preached to others, I myself should be a castaway.

(1 โครินธ์ 9:24)  ท่านไม่รู้หรือว่าคนเหล่านั้นที่วิ่งแข่งกัน ก็วิ่งด้วยกันทุกคน แต่คนที่ได้รับรางวัลมีคนเดียว เหตุฉะนั้นจงวิ่งเพื่อชิงรางวัลให้ได้
(1 โครินธ์ 9:25)  ฝ่ายนักกีฬาทุกคนก็เคร่งครัดในระเบียบทุกอย่าง แล้วเขากระทำอย่างนั้นเพื่อจะได้มงกุฎใบไม้ซึ่งร่วงโรยได้ แต่เรากระทำเพื่อจะได้มงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยเลย
(1 โครินธ์ 9:26)  ดังนั้นส่วนข้าพเจ้าวิ่งแข่งอย่างนี้โดยมีเป้าหมาย ข้าพเจ้าได้ต่อสู้อย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนักมวยที่ชกลม
(1 โครินธ์ 9:27)  แต่ข้าพเจ้าระงับความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังให้อยู่ใต้บังคับ เพราะเกรงว่าโดยทางหนึ่งทางใดเมื่อข้าพเจ้าได้ประกาศแก่คนอื่นแล้ว ตัวข้าพเจ้าเองจะเป็นคนที่ใช้การไม่ได้

พระคำข้อนี้แสดงให้เราเห็นถึงภาพของผู้คนที่กำลังวิ่งแข่งกัน และก็มีรางวัลสำหรับการชนะแข่งขัน นักกีฬาทุกคนกว่าจะแข่งขันชนะได้รางวัลเหรียญทองต้องขยันขันแข็งในการฝึกซ้อม และมีระเบียบวินัยเคร่งครัด สำหรับฝ่ายจิตวิญญาณก็มีหลักการไม่ต่างกัน ผู้เชื่อที่ได้รับความรอดแล้ว ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนในเรื่องของฝ่ายจิตวิญญาณเช่นกันครับ พระคัมภีร์บอกว่าในท้ายที่สุดแล้วก็จะมีบำเหน็จรางวัลอันเป็นนิรันดร์ให้กับผู้เชื่อด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นต้องศึกษาสิ่งที่พระคัมภีร์เขียนและสอนไว้ เพื่อจะได้รู้ว่าต้องฝึกและพัฒนาชีวิตของเราในเรื่องใดบ้าง พระคัมภีร์ข้างต้นสอนให้เรา ระงับความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนังให้อยู่ใต้บังคับ ครับ ขอให้ทุกคนแน่ใจได้เลยครับว่าความบาปนำมาซึ่งความเจ็บปวด มันจะทำลายทุกสิ่งในที่สุด

สำหรับชีวิตของคริสเตียนแล้ว ยิ่งเรายอมรับ เชื่อฟังข้อพระคัมภีร์ และนำไปปฏิบัติตามยิ่งเร็วเท่าไหร่ ก็ย่อมเกิดผลดีในชีวิตมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การงาน หรือแม้แต่สภาพจิตใจ ผู้เชื่อจำเป็นต้องเลือกและตัดสินใจในทุกๆวันที่จะไม่ทำในสิ่งที่พระคัมภีร์เตือนและห้ามเอาไว้ครับ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เชื่อคนนั้นจะเลือกและยอมควบคุมตนเองหรือไม่

ผู้เชื่อต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อผลของการกระทำของตน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาล้มเหลวในการบังคับควบคุมความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง สิ่งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นต้องมีความพยายามที่จะเอาชนะฝ่ายเนื้อหนังผ่านการช่วยเหลือของพระเจ้าครับ

(1 Corinthians 6:12) All things are lawful unto me, but all things are not expedient: all things are lawful for me, but I will not be brought under the power of any.
(1 Corinthians 6:13) Meats for the belly, and the belly for meats: but God shall destroy both it and them. Now the body is not for fornication, but for the Lord; and the Lord for the body.
(1 Corinthians 6:14) And God hath both raised up the Lord, and will also raise up us by his own power.
(1 Corinthians 6:15) Know ye not that your bodies are the members of Christ? shall I then take the members of Christ, and make them the members of an harlot? God forbid.
(1 Corinthians 6:16) What? know ye not that he which is joined to an harlot is one body? for two, saith he, shall be one flesh.
(1 Corinthians 6:17) But he that is joined unto the Lord is one spirit.
(1 Corinthians 6:18) Flee fornication. Every sin that a man doeth is without the body; but he that committeth fornication sinneth against his own body.
(1 Corinthians 6:19) What? know ye not that your body is the temple of the Holy Ghost which is in you, which ye have of God, and ye are not your own?
(1 Corinthians 6:20) For ye are bought with a price: therefore glorify God in your body, and in your spirit, which are God’s.

(1 โครินธ์ 6:12)  ข้าพเจ้าทำสิ่งสารพัดได้ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งที่จะทำได้นั้นเป็นประโยชน์ ข้าพเจ้าทำสิ่งสารพัดได้ แต่ข้าพเจ้าไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใดเลย
(1 โครินธ์ 6:13)  อาหารมีไว้สำหรับท้อง และท้องก็สำหรับอาหาร แต่พระเจ้าจะทรงให้ทั้งท้องและอาหารสิ้นสูญไป แล้วร่างกายนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย
(1 โครินธ์ 6:14)  พระเจ้าได้ทรงชุบให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นขึ้นมาใหม่ และพระองค์จะทรงชุบให้เราทั้งหลายเป็นขึ้นมาใหม่โดยฤทธิ์เดชของพระองค์ด้วย
(1 โครินธ์ 6:15)  ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นอวัยวะของพระคริสต์ เมื่อเป็นเช่นนั้น จะให้ข้าพเจ้าเอาอวัยวะของพระคริสต์มาเป็นอวัยวะของหญิงแพศยาได้หรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย
(1 โครินธ์ 6:16)  ท่านไม่รู้หรือว่าคนที่ผูกพันกับหญิงแพศยาก็เป็นกายอันเดียวกันกับหญิงนั้น เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า `เขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน’
(1 โครินธ์ 6:17)  แต่ส่วนคนที่ผูกพันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นอันเดียวกันกับพระองค์ฝ่ายจิตวิญญาณ
(1 โครินธ์ 6:18)  จงหลีกเลี่ยงเสียจากการล่วงประเวณี ความบาปทุกอย่างที่มนุษย์กระทำนั้นเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้นทำผิดต่อร่างกายของตนเอง
(1 โครินธ์ 6:19)  ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน ซึ่งท่านได้รับจากพระเจ้า ท่านไม่ใช่เจ้าของตัวท่านเอง
(1 โครินธ์ 6:20)  พระเจ้าได้ทรงซื้อท่านไว้แล้วตามราคา เหตุฉะนั้นท่านจงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่างกายของท่าน และด้วยจิตวิญญาณของท่าน ซึ่งเป็นของพระเจ้า

สำหรับพระคัมภีร์ข้อเหล่านี้บอกเราว่า สิ่งที่เราสามารถทําได้ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นสิ่งดีที่จะทํา หากคริสเตียนไม่รู้จักบังคับและควบคุมตนเอง การรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าหรือสิ่งใดก็ตามที่ทำเพื่อพระองค์ก็จะได้รับความเสียหายครับ ยกตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์ 1 โครินธ์ 6:18 เขียนมาและเตือนเราอย่างชัดเจนครับว่าให้เรา หลีกเลี่ยงเสียจากการล่วงประเวณี เราต้องควบคุมทั้งกาย ใจ และวิ่งหนีออกห่างจากสิ่งนี้ครับ

เรามาดูข้อพระคัมภีร์ข้อต่อมาว่ามีสิ่งใดอีกบ้างที่พระเจ้าบอกพวกเราให้รู้จักบังคับควบคุมตนเอง ให้ทิ้งกำจัดสิ่งเหล่านั้นเสีย

(Colossians 3:1) If ye then be risen with Christ, seek those things which are above, where Christ sitteth on the right hand of God.
(Colossians 3:5) Mortify therefore your members which are upon the earth; fornication, uncleanness, inordinate affection, evil concupiscence, and covetousness, which is idolatry:
(Colossians 3:8) But now ye also put off all these; anger, wrath, malice, blasphemy, filthy communication out of your mouth.

(โคโลสี 3:1)  ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงประทับข้างขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า
(โคโลสี 3:5) เหตุฉะนั้นจงประหารอวัยวะของท่านซึ่งอยู่ฝ่ายโลกนี้ คือการล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ ซึ่งเป็นการนับถือรูปเคารพ 
(โคโลสี 3:8) แต่บัดนี้สารพัดสิ่งเหล่านี้ท่านจงเปลื้องทิ้งเสียด้วย คือความโกรธ ความขัดเคือง การคิดปองร้าย การหมิ่นประมาท คำพูดหยาบโลนจากปากของท่าน 

เมื่อเราอ่านข้อพระคัมภีร์นี้ เราเห็นได้ชัดว่าพระเจ้าได้ให้รายการความบาปต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน และพระองค์คาดหวังให้คริสเตียนออกห่างและกำจัดทิ้งสิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิตครับ

…การล่วงประเวณี การโสโครก ราคะตัณหา ความปรารถนาชั่ว และความโลภ ซึ่งเป็นการนับถือรูปเคารพ ความโกรธ ความขัดเคือง การคิดปองร้าย การหมิ่นประมาท คำพูดหยาบโลน.

สิ่งเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้วจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดและทำร้ายเรา รวมถึงคนรอบข้างครับ ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนชีวิตโดยดำเนินอยู่ในความสะอาด และบริสุทธิ์ผ่านการอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในทุกๆวันที่เรามีชีวิตอยู่ครับ

ก่อนจากกันในวันนี้ เรามาดูข้อพระคัมภีร์ที่จะเป็นพระพรให้กับพี่น้องคริสเตียนที่ได้รับความรอดแล้วกันครับ

(Romans 6:12) Let not sin therefore reign in your mortal body, that ye should obey it in the lusts thereof.
(Romans 6:13) Neither yield ye your members as instruments of unrighteousness unto sin: but yield yourselves unto God, as those that are alive from the dead, and your members as instruments of righteousness unto God.
(Romans 6:14) For sin shall not have dominion over you: for ye are not under the law, but under grace.

(โรม 6:12)  เหตุฉะนั้นอย่าให้บาปครอบงำกายที่ต้องตายของท่าน ซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น
(โรม 6:13)  อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
(โรม 6:14)  เพราะว่าบาปจะมีอำนาจเหนือท่านทั้งหลายต่อไปก็หามิได้ เพราะว่าท่านทั้งหลายมิได้อยู่ใต้พระราชบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณ

เมื่อเราได้รับความรอด พระเจ้าได้ประทานพระคุณของพระองค์ให้กับเราที่จะมีอำนาจเหนือความบาปทั้งปวง โดยที่เราจำเป็นต้องพึ่งพาและเข้าหาพระองค์ครับ

สำหรับเนื้อหาโพสนี้ แอดมินเรียบเรียงมาจากบทเทศนา Control Yourself | Christian Character in Action – Lesson 4 ทุกคนสามารถเข้าไปรับฟังเพิ่มเติมกันได้ครับที่

https://www.youtube.com/watch?v=SeQ8NDPLD9w

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน