ทำสิ่งเหล่านี้ในทุกวัน

สวัสดีครับทุกคน ตอนนี้ก็เริ่มต้นปี 2564 แล้ว สำหรับปีนี้แอดมินหวังใจให้พี่น้องคริสเตียนทุกคน ได้เติบโตขึ้นฝ่ายจิตวิญญาณและมีความสัมพันธ์อันดีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าครับ แอดมินได้มีโอกาสฟังคำสอนเทศนาในหัวข้อ สิ่งที่ควรทำในทุกวัน (Things To Do Every Day) และอยากแบ่งปันกับทุกคน ผู้เชื่อที่ได้รับความรอดแล้ว คงคุ้นเคยกับการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ไปประชุมนมัสการที่โบสถ์ การถวายทรัพย์ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องพื้นฐาน  เราลองมาดูกันว่าพระคัมภีร์ได้บอก และสอนให้เราทำสิ่งใดบ้างในทุกๆวันครับ

ทำตามคำปฏิญาณในทุกวัน

(Psalms 61:7)  He shall abide before God for ever: O prepare mercy and truth, which may preserve him.
(Psalms 61:8)  So will I sing praise unto thy name for ever, that I may daily perform my vows.

(สดุดี 61:7)  ท่านจะคอยเฝ้าต่อพระพักตร์พระเจ้าเป็นนิตย์ โอ ขอทรงแต่งตั้งความเมตตาและความจริงไว้คุ้มครองท่าน 
(สดุดี 61:8)  แล้วข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เสมอ ตามที่ข้าพระองค์ทำตามคำปฏิญาณอยู่แต่ละวันนั้น 

เราควรตรวจสอบการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวันถึงสิ่งที่เราควรทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แอดมินหนุนใจให้ผู้เชื่อทุกคนลองใช้เวลาในการอธิษฐาน การอ่านและศึกษาพระคัมภีร์ รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวขององค์พระเยซูคริสต์กับคนอื่นให้มากขึ้นในปีนี้ครับ

ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงค้ำชูในทุกวัน

(Psalms 68:19)  Blessed be the Lord, who daily loadeth us with benefits, even the God of our salvation. Selah.

(สดุดี 68:19)  สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงค้ำชูเราทั้งหลายอยู่ทุกวัน พระเจ้าผู้ทรงเป็นความรอดของเรา เซลาห์

พระเจ้าได้ค้ำชูเราทั้งหลายอยู่ในทุกวัน หากเราใช้เวลามองถึงสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา จะเห็นได้ว่า ความปลอดภัย ความรัก การให้อภัย พระเมตตา และ พระคุณของพระเจ้าที่ประทานให้เรา มีอยู่ในทุกๆวันเลยครับ ผู้เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ล้วนได้รับพระพรในสิ่งเหล่านี้ แต่บ่อยครั้งเราก็ไม่ได้ขอบคุณพระเจ้าในสิ่งเหล่านี้ คริสเตียนต้องเรียนรู้ที่จะขอบพระคุณพระเจ้าในทุกๆวันครับ

ร้องทูลต่อพระเจ้าในทุกวัน

(Psalms 86:1)  Bow down thine ear, O LORD, hear me: for I am poor and needy.
(Psalms 86:2)  Preserve my soul; for I am holy: O thou my God, save thy servant that trusteth in thee.
(Psalms 86:3)  Be merciful unto me, O Lord: for I cry unto thee daily.
(Psalms 86:4)  Rejoice the soul of thy servant: for unto thee, O Lord, do I lift up my soul.

(สดุดี 86:1)  โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ยากจนและขัดสน
(สดุดี 86:2)  ขอทรงสงวนชีวิตข้าพระองค์ไว้เพราะข้าพระองค์บริสุทธิ์ โอ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ผู้วางใจในพระองค์
(สดุดี 86:3)  โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงพระกรุณาต่อข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์วันยังค่ำ
(สดุดี 86:4)  ขอทรงให้จิตใจผู้รับใช้ของพระองค์ยินดี โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจข้าพระองค์ตั้งใจแน่วแน่ในพระองค์

พระเจ้าสอนเราผ่านทางพระคัมภีร์ ทำให้เรารู้ว่าในชีวิตนี้ ทุกคนล้วนต้องพบเจอกับความยากลำบาก ความทุกข์ สิ่งที่ทำให้เสียใจ ผู้เชื่อจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะฝากความหวังใจทั้งหมดไปกับพระเจ้า หากมีความวิตกกังวล หรือไม่สบายใจในสิ่งใดก็ให้อธิษฐานร้องทูลต่อพระเจ้าได้ทันที สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นธรรมชาติหรือนิสัยปกติ คริสเตียนต้องหมั่นฝึกฝนและทำตามที่พระคัมภีร์ได้ให้แนวทางไว้ในเรื่องนี้ครับ

ร้องทูลต่อพระเจ้าในเรื่องความทุกข์ยากลำบากในทุกวัน

(Psalms 88:9)  Mine eye mourneth by reason of affliction: LORD, I have called daily upon thee, I have stretched out my hands unto thee.

(สดุดี 88:9) นัยน์ตาของข้าพระองค์มัวไปเพราะความทุกข์ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ทุกวัน ข้าพระองค์ชูมือขึ้นต่อพระองค์ 

การเป็นผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ ได้รับความรอดอันเป็นนิรันดร์ ไม่ได้การันตีว่าชีวิตที่เหลืออยู่ในโลกนี้จะไม่มีปัญหา จะไม่มีความทุกข์ยาก หยาดน้ำตาแห่งการสูญเสีย อย่างไรก็ตามเมื่อคริสเตียนมีความทุกข์ ความกลัว หรือสิ่งใดก็ตามที่รบเร้าจิตใจ เราควรนำเรื่องราวเหล่านี้ร้องทูลต่อพระเจ้าครับ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารที่รับประทานในทุกวัน

(Matthew 6:11)  Give us this day our daily bread.

(มัทธิว 6:11)  ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้

เราทุกคนต้องไม่ลืมว่า ข้าวปลาอาหารทุกจาน น้ำดื่มสะอาด สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะพระเจ้าประทานให้กับพวกเรา เรื่องนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามเป็นที่สุดเหมือนกันครับ วันนี้ก่อนรับประทานอาหารมื้อใดก็ตาม แอดมินหนุนใจให้ขอบคุณพระเจ้าเสมอนะครับ

รับกางเขนแบกของตน และตามพระเจ้าในทุกวัน

(Luke 9:23)  And he said to them all, If any man will come after me, let him deny himself, and take up his cross daily, and follow me.

(ลูกา 9:23)  พระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า “ถ้าผู้ใดจะใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา

การดำเนินชีวิตตามอย่างองค์พระเยซูคริสต์ เราต้องเรียนรู้ที่จะทำงานด้านการรับใช้ผู้อื่น แม้ว่าจะไม่ได้รับคำชื่นชม คำขอบคุณ หรือคำยินดี ทัศนคติเหล่านี้เราจำเป็นต้องพัฒนาและฝึกฝน อย่างไรก็ตามเราก็สามารถอธิษฐานให้พระเจ้าช่วยเราได้ในเรื่องนี้ครับ

สั่งสอนและประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ในทุกวัน

(Acts 5:42)  And daily in the temple, and in every house, they ceased not to teach and preach Jesus Christ.

(กิจการ 5:42)  ที่ในพระวิหารและตามบ้านเรือน เขาได้สั่งสอนและประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ ทุกๆวันมิได้ขาด

สำหรับปีนี้แอดมินหนุนใจผู้เชื่อทุกคน ให้เรียนรู้การประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ และบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์กับผู้ที่ยังไม่เคยได้ยิน หรือ ยังไม่เชื่อ ที่พระเจ้านำพาเข้ามาในชีวิตของเราครับ

ค้นดูพระคัมภีร์ในทุกวัน

(Acts 17:11)  These were more noble than those in Thessalonica, in that they received the word with all readiness of mind, and searched the scriptures daily, whether those things were so.

(กิจการ 17:11)  ชาวเมืองนั้นสุภาพกว่าชาวเมืองเธสะโลนิกา ด้วยเขาได้รับพระวจนะด้วยความเต็มใจ และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่า ข้อความเหล่านั้นจะจริงดังกล่าวหรือไม่

การเติบโดขึ้นในความเชื่อ คริสเตียนจำเป็นต้องหมั่นศึกษาและอ่านพระคัมภีร์อยู่เสมอ มีเพียงแค่พระคัมภีร์เท่านั้นที่บอกเราเกี่ยวกับความจริงในด้านต่างๆ ปีนี้แอดมินหนุนใจให้ทุกคนลองอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มให้จบภายในหนึ่งปีครับ

โต้แย้งต่อสิ่งเท็จเทียมในทุกวัน

(Acts 19:9)  But when divers were hardened, and believed not, but spake evil of that way before the multitude, he departed from them, and separated the disciples, disputing daily in the school of one Tyrannus.

(กิจการ 19:9)  แต่บางคนมีใจแข็งกระด้างไม่เชื่อและพูดหยาบช้าเรื่องทางนั้นต่อหน้าชุมนุมชน เปาโลจึงแยกไปจากเขาและพาพวกสาวกไปด้วย แล้วท่านได้ไปโต้แย้งกันทุกวันในห้องประชุมของท่านผู้หนึ่งชื่อ ทีรันนัส

พระคัมภีร์ที่พระเจ้าบันทึกไว้มีแต่ความจริง ไม่ว่าจะเป็นหลักข้อคำสอน หลักข้อเชื่อต่างๆ การใช้ชีวิตคริสเตียนเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงกับความเท็จเทียมที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นคำสอน แนวคิด ค่านิยม ปรัชญาของทางโลก หากเรื่องใดที่ขัดแย้งกับพระคัมภีร์เราต้องมีความพร้อมอยู่เสมอที่จะโต้แย้งสิ่งนั้น หากเราไม่อ่าน ศึกษาพระคัมภีร์ เราไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือความเท็จ

จงเตือนสติกันและกันในทุกวัน

(Hebrews 3:13)  But exhort one another daily, while it is called To day; lest any of you be hardened through the deceitfulness of sin.

(ฮีบรู 3:13)  ท่านจงเตือนสติกันและกันทุกวัน ตลอดเวลาที่เรียกว่า “วันนี้” เพื่อว่าจะไม่มีผู้ใดในพวกท่านมีใจแข็งกระด้างไปเพราะเล่ห์กลของบาป

ผู้เชื่อควรหนุนใจซึ่งกันและกันให้ใช้ชีวิตในหนทางความบริสุทธิ์และรับใช้องค์พระเยซูคริสต์ ดังนั้นการประชุมนมัสการที่คริสตจักรจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่จะได้ยินพระคำของพระเจ้าคอยช่วยเตือนใจไม่ให้กลับไปใช้ชีวิตที่หลงมัวเมาไปกับความบาปต่างๆ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน