รู้จักพระเจ้าให้มากขึ้น

วันนี้เรายังคงอยู่ในหัวข้อทำความรู้จักกับ “พระเจ้า” ครับ แอดมินชวนคริสเตียนทุกคนมาทำความรู้จักกับพระเจ้ากันให้มากขึ้นครับ เรารู้จักกับพระเจ้าได้ผ่านทางพระคัมภีร์ ซึ่งพระองค์ได้เปิดเผยให้เราทราบ เราไม่ต้องคาดเดาว่าพระเจ้าจะมีลักษณะ มีบุคลิกอย่างไร มีเพียงพระคัมภีร์เท่านั้นที่ทำให้เรารู้จักกับพระเจ้าในแบบอย่างที่พระองค์เป็นครับ

1. พระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนแปลง (ไม่รู้ผันแปร)

(Malachi 3:6) For I am the LORD, I change not; therefore ye sons of Jacob are not consumed.

(มาลาคี 3:6) เพราะว่า เราคือพระเยโฮวาห์ไม่มีผันแปร บุตรชายยาโคบเอ๋ย เจ้าทั้งหลายจึงไม่ถูกเผาผลาญหมด

พระคำข้อนี้กล่าวว่าพระเจ้าไม่ทรงทำอะไรครับ? 

พระเจ้าไม่มีวันผันแปร พระเจ้ายังคงเหมือนเดิมเสมอ นี่รวมถึงความรัก ความเมตตา ความห่วงใย ความสัตย์ซื่อ ความบริสุทธิ์ ฤทธิ์อำนาจ การตัดสินพิพากษา และการเกลียดชังทุกความบาป ของพระองค์ แม้วันเวลายุคสมัย แนวคิดหรือค่านิยมของโลกนี้จะผ่านไป แต่ลักษณะของพระเจ้าเหล่านี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปครับ

2. พระเจ้าทรงบริสุทธิ์

(Psalms 99:9) Exalt the LORD our God, and worship at his holy hill; for the LORD our God is holy.

(เพลงสดุดี 99:9) จงยอพระเกียรติพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา และนมัสการที่ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราบริสุทธิ์

เราควรยอพระเกียรติองค์พระผู้เป็นเจ้า และนมัสการพระองค์เพราะเหตุใดครับ?

คำตอบคือ พระเจ้าของเราบริสุทธิ์

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า เป็นลักษณะอันโดดเด่นของพระองค์ คำว่า “บริสุทธิ์” ตาม พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 หมายถึง การไม่มีอะไรเจือปน ปราศจากมลทิน ปราศจากความผิด หมดจดไม่มีตำหนิ

พระเจ้าทรงปราศจากทุกความบาป ไม่มีมลทินแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้ความบริสุทธิ์ของพระองค์เป็นเหตุผลให้เราสมควรสรรเสริญ เทิดทูน และนมัสการพระองค์ครับ

คริสเตียนทุกคนควรเดินอยู่ในหนทางแห่งความบริสุทธิ์เช่นกันครับ แนวทางต่างๆนั้นพระเจ้าได้สอนพวกเราผ่านทางข้อพระคัมภีร์ครับ อย่างไรก็ตามสภาพร่างกายแห่งเนื้อหนังของเรานั้นยังไม่ได้รับการไถ่กลับอย่างแท้จริงในตอนนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคริสเตียนที่ได้รับความรอดแล้วยังมีโอกาสที่ทำบาปได้ครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น การมีจิตใจที่คิดไม่ดีต่อผู้อื่น ใจหยิ่งทะนงตน ใจคิดอิจฉา ใจลุ่มหลงในราคะตัณหา ใจโกรธเคือง สิ่งเหล่านี้คือความบาปทั้งสิ้นครับ เราทุกคนที่ได้รับความรอดแล้วก็ยังมีโอกาสทำบาปเหล่านี้ได้ ดังนั้นการสารภาพบาปต่อพระเจ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมากครับ ทุกคนสามารถย้อนกลับไปอ่านโพส “ทำไงดี ทำบาปแล้ว!” กันได้นะครับ

 3. พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระคุณ

คำว่า “พระคุณ” ได้รับการแปลมาจากศัพท์ภาษาอังกฤษที่ว่า “Grace” ซึ่ง หมายถึง “ความโปรดปรานที่เราไม่สมควรได้รับ” ครับ

ทุกคนจำได้ไหมครับว่าคริสเตียนได้รับความรอดโดยพระคุณ

(Ephesians 2:8)  For by grace are ye saved through faith; and that not of yourselves: it is the gift of God:

(เอเฟซัส 2:8) ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง ความรอดนั้นเป็นของประทานจากพระเจ้า

พระคุณของพระเจ้าส่งผ่านมาทางสิ่งเดียวเท่านั้นคือความเชื่อในพระเยซูคริสต์ครับ เราทุกคนต่างหลงหาย ต่างเป็นคนบาปด้วยกันทั้งสิ้น มีเพียงแต่พระคุณของพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เรามีความหวังใจในเรื่องความรอดได้ครับ

เราได้รับความรอดทันทีที่เราเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์ ความรอดเป็นมาโดยพระคุณของพระเจ้าครับ ดังนั้นวิธีเดียวที่เราจะได้มันมาเป็นของเราก็คือ การกลับใจและวางใจในพระเยซูคริสต์ครับ ความรอดไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง เราเองไม่มีส่วนในความรอดเลย ทั้งหมดนี้ก็เพราะพระเจ้าล้วนๆ พระคุณและพระเมตตาเป็นของขวัญของพระเจ้าครับ

ของขวัญเป็นอะไรที่ไม่ต้องมีสิ่งใดมาตอบแทน เป็นของให้เปล่า เราจะได้มาก็ต่อเมื่อเรายอมรับมันเท่านั้น หากใครยังไม่เคยได้อ่านโพส “จะรอดไหมเนี่ย” มาก่อน แอดมิน ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ

4. พระเจ้าทรงเป็นความจริง

(Titus 1:2) In hope of eternal life, which God, that cannot lie, promised before the world began;

(ทิตัส 1:2) ด้วยหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งพระเจ้าผู้ไม่สามารถตรัสมุสา ได้ทรงสัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก

จากพระคำข้อนี้ พระเจ้าทรงทำอะไรไม่ได้ครับ?

พระเจ้าไม่สามารถตรัสมุสา (โกหก) ได้ พระองค์โกหกไม่เป็น การหลอกลวงเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับอุปนิสัยของพระเจ้า เราเองสามารถพบกับความจริงของพระเจ้าได้ ผ่านการอ่านพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน

อ้างอิง:
The ABC’s of Christians Growth, Robert J. Sargent
ทำความเข้าใจพระคัมภีร์, ดร. เดวิด เอช. โซเร็นสัน