น้ำพระทัยพระเจ้ารู้ได้

สวัสดีครับทุกคน วันนี้แอดมิน เริ่มโพสใหม่ หัวข้อ “น้ำพระทัยพระเจ้า” สำหรับคริสเตียนที่ได้รับความรอดแล้ว พวกเขามักถามกันว่า “แล้วต่อจากนี้เป็นยังไงต่อละ?”

พวกเขาได้รู้แล้วว่าตัวพวกเขาเองเป็นคนบาป การทำความดีใดๆ ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้พวกเขาไปสู่สวรรค์ได้เมื่อตายไป พวกเขาตัดสินใจเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์เท่านั้น ผู้ซึ่งถูกตรึง หลั่งเลือดเพื่อชำระทุกบาปผิด ถูกฝังไว้ และฟื้นคืนชีวิตกลับมาในวันที่สาม พวกเขาอธิษฐานบอกกับพระเจ้าให้โปรดช่วยพวกเขาให้รอด ซึ่งพระเจ้าก็ทรงช่วยให้พวกเขารอดจริงๆ ตามที่พระคัมภีร์ได้ยืนยันไว้ หากใครยังไม่เคยได้อ่านโพส “จะรอดไหมเนี่ย” สามารถเข้าไปอ่านกันก่อนได้ครับ

สำหรับคริสเตียนที่ได้รับความรอดแล้ว คำถามสำคัญก็คือ “เราจะรู้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตเราได้อย่างไร?”

เป้าหมายสำคัญของชีวิตคริสเตียนก็คือ การทราบได้ถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตของพวกเขา และก็ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้เพื่อทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้านั้นให้สำเร็จครับ

คำว่า “ความสำเร็จ” สำหรับคริสเตียน สามารถวัดได้จากการที่พวกเขาได้ทำตามในสิ่งที่พระเจ้าได้คาดหวังไว้ต่อชีวิตของเขาครับ

สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ได้ทรงเปิดเผยสิ่งนี้ให้เราได้ทราบผ่านทางพระคัมภีร์ ว่าอะไรคือน้ำพระทัยของพระองค์ครับ

ก่อนอื่นเลย แอดมิน ชวนทุกคนมาอ่านข้อพระคัมภีร์ โรม 12:2 กันครับ

(Romans 12:2)  And be not conformed to this world: but be ye transformed by the renewing of your mind, that ye may prove what is that good, and acceptable, and perfect, will of God.

(โรม 12:2) และอย่าทำตามอย่างชาวโลกนี้ แต่ท่านจงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจเสียใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้าว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม

พระเจ้าบอกชัดเจนกับคริสเตียนทุกคนที่ได้รับความรอดแล้วไม่ให้เราทำตามอย่างชาวโลกนี้ แต่ให้เปลี่ยนแปลงความคิดของเราใหม่ แทนที่รับอิทธิพล ค่านิยมของโลกนี้ พระเจ้าบอกให้เรารับแนวคิดที่เป็นตามแบบอย่างของพระองค์ แนวคิดของพระเจ้าก็มีเขียนบันทึกไว้อยู่ในพระคัมภีร์ครับ

หากเราไม่ใช้เวลาอ่าน ศึกษาพระคัมภีร์ เราจะทราบถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไรกันครับ?

เป้าหมายที่คริสเตียนทุกคนควรมีไว้ประจำใจ ก็คือ ได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้าว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม

หากเราอยากทราบถึงพระประสงค์ของพระเจ้า เราต้องไม่ทำตามอย่างชาวโลกนี้ แต่เราต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของเราครับ ผ่านการอ่านใคร่ครวญพระคำของพระองค์ เมื่อนั้นเราก็จะอยู่ในสถานะที่จะรับทราบน้ำพระทัยของพระเจ้าได้ครับ

พระคัมภีร์ข้อนี้บอกว่า พระประสงค์ของพระเจ้านั้น  ดี ชอบพระทัย และดียอดเยี่ยม

ไม่มีอะไรดีไปกว่าน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราอีกแล้วครับ น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราเป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับเราด้วย พระองค์ทรงจัดเตรียมเราให้พร้อมสำหรับน้ำพระทัยของพระองค์แล้ว เราจะมีความสุขในการทำตามน้ำพระทัยนั้น น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราเป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับเรา

ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราหาน้ำพระทัยที่สมบูรณ์แบบของพระเจ้าและดำเนินต่อไปในน้ำพระทัยนั้น

แบบอย่างที่เราควรทำตามก็คือ องค์พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า นั่นเองครับ ทุกคนลองอ่านข้อพระคัมภีร์ ลูกา 22:42 ครับ

(Luke 22:42)  Saying, Father, if thou be willing, remove this cup from me: nevertheless not my will, but thine, be done.

(ลูกา 22:42) ว่า “พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดีอย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด”

พระคัมภีร์ข้อนี้นำเราไปสู่เหตุการณ์ตอนที่พระเยซูอธิษฐานที่สวนเกทเสมนี ก่อนจะถูกจับกุมและถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์ทราบดีว่ามีอะไรรอคอยพระองค์อยู่ พระองค์รู้ได้ถึงการถูกปฏิเสธที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า พระองค์รู้ถึงความทุกข์ทรมานฝ่ายร่างกายที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า พระองค์ยังทราบว่าสาวกส่วนใหญ่ที่สัตย์ซื่อจะทอดทิ้งพระองค์ไป พระเยซูทราบว่าในวันถัดไปพระองค์จะเป็นความบาปเพราะเห็นแก่เรา ทั้งๆที่พระองค์ไม่มีบาปเลย  พระองค์ทราบว่าจะถูกมนุษย์ปฏิเสธ และถูกพระเจ้าทอดทิ้ง พระองค์รู้ว่าในวันนั้นเอง พระองค์จะพบเจอกับความเจ็บปวดแห่งความตาย

ทุกคนครับ พระเยซูถูกทดลองเหมือนกับเราทุกประการ แม้ต้องเผชิญกับการถูกตรึงบนไม้กางเขน และต้องตายนั้น พระเยซูกลับนอบน้อมต่อพระบิดาของพระองค์ พระองค์อธิษฐานต่อไปว่า แต่อย่างไรก็ดีอย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด

นี่เป็นตัวอย่างแห่งการอธิษฐานที่คริสเตียนทุกคนควรถือเป็นแบบอย่างครับ

โพสต่อไป แอดมินจะเริ่มแนะนำให้ทุกคนทราบถึงน้ำพระทัยของพระเจ้าที่มีต่อพวกเราผ่านทางข้อพระคัมภีร์กันครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
แอดมิน

อ้างอิง:
ทำความเข้าใจพระคัมภีร์, ดร. เดวิด เอช. โซเร็นสัน
The Will of God, King James Bible Study Correspondence Course, An Outreach of Highway Evangelistic Ministries

Share

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *